ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mitrephora sirikitiae Weerasooriya., Chalermglin & R.M.K.Saunders
วงศ์ ANNONACEA
ชื่ออื่น ๆ -
ลักษณะทั่วไป
ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 6 ม. ใบ เดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอก ปลายแหลมถึงเรียวแหลม โคนแหลมหรือมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายหนัง ผิวด้านล่างมีขน ดอก ช่อดอกค่อนข้างสั้น ออกที่ซอกใบหรือตามรอยแผลใบของกิ่งแก่ มักมีดอกเดียวที่เจริญ กลีบเลี้ยง 3 กลีบ รูปไข่กว้าง มีขนสีน้ำตาลแดงหนาแน่น กลีบดอก 6 กลีบ เรียงเป็น 2 ชั้น กลีบดอกชั้นนอกสีขาว โคนกลีบสีเขียว รูปไข่กว้าง กลีบดอกชั้นในสีม่วงเข้ม ขอบกลีบเป็นคลื่น ปลายกลีบโค้งขึ้นมาจรดกันด้านบนเป็นรูปกระเช้า ก้านกลีบดอกสีขาวอมเขียว เกสรเพศผู้จำนวนมาก เกสรเพศเมียประมาณ 17 อัน รังไข่มีหลายคาร์เพล แยกกัน ผล.กลุ่ม ก้านช่อผลยาว 5–5.8 ซม. มีผลย่อย 10–15 ผล รูปทรงกระบอกแกมขอบขนาน ก้านผลย่อยยาว 1.5–2.5 ซม. เมล็ดมี 13–21 เมล็ด รูปคล้ายไข่หรือทรงกลม สีน้ำตาล เขตการกระจายพันธุ์และนิเวศวิทยา : เป็นพืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะบนเขาหินปูน ออกดอกเดือนพฤษภาคม ติดผลเดือนสิงหาคมถึงกันยายน การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด เสียบยอด ทาบกิ่ง
พันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นของประเทศไทย สำรวจพบโดย ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่นจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2542 ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้อัญเชิญพระนามาภิไธยเป็นชื่อพันธุ์ไม้ชนิดใหม่ของโลก เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 12 สิงหาคม พ.ศ. 2547
ประโยชน์/สรรพคุณ
ปลูกเป็นไม้ประดับ