Home / Knowledge / ชื่อต้น : พะวา

ชื่อต้น : พะวา

วงศ์ Clusiaceae
ชื่ออื่น ๆ กวักไหม กะวา ขวาด ชะม่วง มะดะขี้นก มะป่อง วาน้ำ ส้มโมงป่า สารภีป่า หมากกวัก

ลักษณะ ลำต้น : มีลักษณะเปลาตรง เปลือกลำต้นบาง มีสีเทาอมดำ แตกกิ่งก้านสาขาและใบหนาทึบเป็นทรงพุ่มรูปโดม มีขนาดความสูงของลำต้นประมาณ 10-18 เมตร ส่วนของลำต้น ใบ และผลมียางสีขาวอมเหลือง
ใบ : ออกเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับตรงข้ามกัน ใบมีลักษณะเป็นรูปทรงรี รูปไข่กลับ รูปขอบขนาน หรือรูปรีแกมขอบขนาน แผ่นใบเรียบค่อนข้างหนา มีสีเขียวเข้มเป็นมัน โคนใบสอบ ปลายใบแหลมหรือมนกว้าง ขอบใบเรียบ มีขนาดความกว้างของใบประมาณ 4-8 ซม. ยาวประมาณ 8-15 ซม. แตกใบดกและหนาทึบ
ดอก : ออกเป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียจะแยกกันอยู่คนละต้น ดอกเพศผู้มีลักษณะเป็นรูปทรงกลมรีสีเหลืองอ่อนและหนาจำนวน 4 กลีบ มีกลีบเลี้ยงจำนวน 4 กลีบ มีเกสรเพศผู้อยู่บริเวณกลางดอกเป็นจำนวนมาก ขนาดดอกที่บานเต็มที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. และร่วงโรยไปภายใน 1-2 วัน ส่วนดอกเพศเมียจะออกเป็นดอกเดี่ยวๆ ลักษณะคล้ายกับดอกเพศผู้ แต่กลีบดอกจะยาวกว่า มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยงสีเหลืองจำนวน 4 กลีบ มีเกสรเพศเมียอยู่บริเวณกลางดอกซึ่งจะพัฒนาเป็นผลต่อไป เมื่อบานเต็มที่จะมีขนาดเท่ากับดอกเพศผู้ ดอกเพศเมียมักร่วงโรยไปภายในเวลา 1 วัน เริ่มให้ดอกในช่วงประมาณเดือนมกราคม-มีนาคม และในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ดอกมีกลิ่นหอม
ผล : มีลักษณะเป็นรูปทรงไข่ ผิวผลเรียบ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางผลประมาณ 1-2 ซม. ยาวประมาณ 1.5-3 ซม. ผลอ่อนมีสีเขียว และเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีส้ม และสีแดงเมื่อสุก บนขั้วผลมีกลีบเลี้ยงติดอยู่ ภายในผลมีเนื้อเป็นกลีบคล้ายกับมังคุดแต่จะมีความใสกว่า เนื้อผลมีรสฝาดเปรี้ยว สามารถรับประทานได้ เริ่มติดผลในช่วงประมาณเดือนเมษายนและในฤดูฝน
เมล็ด : มีลักษณะแบนยาวเป็นสีน้ำตาล
การขยายพันธุ์ : ทำได้ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และวิธีการปักชำกิ่ง ซึ่งใน 1 เมล็ด สามารถงอกเป็นต้นกล้าได้ประมาณ 4-10 ต้น หรือนำมาตัดแบ่งเพื่อนำไปเพาะได้ประมาณ 1-4 ส่วน ต้นพะวา เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถระบายน้ำและอากาศได้ดี ชอบแสงแดดแบบเต็มวัน ต้องการความชื้นสูง

สรรพคุณ/ประโยชน์ ประโยชน์
เนื้อไม้-มีสีน้ำตาลแดง เสี้ยนไม้ละเอียด มีความแข็งแรงทนทาน สามารถนำมาใช้ในการก่อสร้างได้เป็นอย่างดี
ผลสุก-มีรสฝาดเปรี้ยว สามารถนำมารับประทานเป็นผลไม้ได้ แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก และอาจทำให้ท้องเสียได้หากรับประทานมากจนเกินไป
สรรพคุณทางยา
เปลือกต้นและใบ-ใช้ต้มน้ำดื่มเป็นยาลดไข้ ช่วยรักษาแผลในช่องปาก ใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ
ดอก-ใช้ดอกแห้งต้มน้ำดื่มเป็นยาแก้ไข้ ทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ช่วยให้เจริญอาหาร
เปลือกผล-ใช้ปรุงเป็นยาแก้ท้องเสีย
เนื้อภายในผล-ใช้รับประทานเป็นยาระบาย
Print QR Code